Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
บาดทะยัก สาเหตุและอาการ
บาดทะยัก (Tetanus) เป็นโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียร้ายแรง ซึ่งสามารถติดเชื้อได้ผ่านบาดแผลที่เกิดขึ้นตามร่างกาย โดยเชื้อบาดทะยักจะส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ทำให้มีอาการเจ็บปวดและปวดเกร็งกล้ามเนื้อเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อขากรรไกรและกล้ามเนื้อลำคอ ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อบาดทะยักอาจนำไปสู่การเกิดอาการที่รุนแรงและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ด้วย
บาดทะยัก จะสร้างสารพิษขึ้นมาชนิดหนึ่งเรียกว่า toxin ซึ่งสารนี้มีผลต่อระบบประสาท และทำให้เกิดอาการชักขึ้นมานั่นเอง โดยปกติผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายจะแสดงอาการประมาณ 14 วันโดยเฉลี่ย
อาการของบาดทะยัก
1. กล้ามเนื้อขากรรไกรหดเกร็ง ซึ่งอาจทำให้เจ็บปวดและอ้าปากลำบาก
2. กล้ามเนื้อบริเวณลำคอหดเกร็งจนเกิดอาการเจ็บปวด ส่งผลให้กลืนและหายใจลำบาก
3. กล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ เกิดอาการหดเกร็งตามมา เช่น หน้าอก ช่องท้อง และหลัง
4. ร่างกายกระตุกและเกิดความเจ็บปวดเป็นเวลานานหลายนาที ซึ่งมักเกิดจากสิ่งกระตุ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เสียงดัง ลมพัด การถูกสัมผัสร่างกาย หรือการเผชิญกับแสง
สาเหตุของบาดทะยัก
-แผลไฟไหม้
– แผลจากการถูกสัตว์กัด เช่น สุนัข
– แผลถูกทิ่มจากตะปูหรือสิ่งของแหลมคม
– แผลถลอก รอยครูด หรือแผลจากการโดนบาด
– แผลที่เกิดจากกระดูกหักออกมาภายนอกผิวหนัง
– แผลติดเชื้อที่เท้าที่มักเกิดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
– แผลจากการเจาะหรือสักร่างกาย รวมถึงแผลจากการใช้เข็มฉีดยาที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรก
– แผลติดเชื้อทางสายสะดือในทารก จากการใช้อุปกรณ์ทำคลอดที่ไม่สะอาดในการตัดสายสะดือ และอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้นเมื่อแม่ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักอย่างครบถ้วน
ภาวะแทรกซ้อนของบาดทะยัก
– จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
– สมองเสียหายจากการขาดออกซิเจน
– เกิดการติดเชื้อที่ปอดจนเกิดปอดบวม
– กระดูกสันหลังและกระดูกส่วนอื่น ๆ หักจากกล้ามเนื้อที่เกร็งมากผิดปกติ
– ไม่สามารถหายใจได้ เนื่องจากการชักเกร็งของเส้นเสียงและกล้ามเนื้อที่ใช้หายใจ
– การติดเชื้ออื่น ๆ แทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการพักฟื้นหรือรักษาตัวจากโรคบาดทะยักในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
การวินิจฉัยบาดทะยัก
แพทย์จะตรวจร่างกายเบื้องต้นเพื่อสังเกตดูอาการของโรคบาดทะยัก เช่น อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกล้ามเนื้อชักกระตุก รวมทั้งสอบถามถึงประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยัก หากพบว่าผู้ป่วยไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันหรือเคยได้รับแต่ไม่ครบถ้วน จะนับว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นอาการจากโรคบาดทะยักได้สูง
การรักษาโรคบาดทะยัก
– ให้ยา Tetanus Immunoglobulin และยาปฏิชีวนะ
– นำเนื้อเยื่อแผลที่ตายแล้วหรือสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากบาดแผล
– ให้ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยและชักกระตุกของกล้ามเนื้อ เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาระงับประสาท
– ใช้เครื่องช่วยหายใจ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก
– ให้อาหารผ่านทางท้องหรือเส้นเลือดแทน ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้
ที่มา
ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ fredericksburgchorale.com
Economy
-
มิตรภาพจีน-ไทยผลิดอกออกผล
มิตรภาพจีน-ไทยผลิดอกออกผล ร่วมมือร่วมใจกันเปิดศักราชใหม่
“หาน จื้อเฉียง” แสดงความยินดีที่จีนและไทยได้เพิ่มความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์มากยิ่งขึ้น และก้าวไปสู่เส้นทางแห่งความสัมพันธ์จีน-ไทยที่กว้างขวางและสดใสยิ่งขึ้น ชี้ปี 2566 ครบ 10 ปีของการสร้างข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง” หวังได้เห็นผลสำเร็จ เพื่อเชื่อมต่อสิ่งอำนวยความสะดวก การค้าที่ไม่มีข้อจำกัด การบูรณาการทางการเงิน และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน พร้อมส่งคำอวยพรตรุษจีน ขอให้ทุกคนโชคดีและมีความสุขตลอดปีเถาะ
นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2565 เป็นปีแห่งความสำเร็จที่เป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-ไทย โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าร่วมการประชุมผู้นำเอเปก ครั้งที่ 29 และเยือนไทย เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว และหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย
ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน และลงนามในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งเป็นการนำไปสู่ยุคใหม่ของความสัมพันธ์จีน-ไทย
“เรายินดีที่เห็นว่าจีนและไทยได้เพิ่มความไว้วางใจเชิงยุทธศาสตร์มากยิ่งขึ้น มีความแน่วแน่ในการรักษาผลประโยชน์หลักของกันและกันอย่างเด็ดเดี่ยว และเสริมสร้างความใกล้ชิดในการประสานงานระหว่างประเทศและภูมิภาค”
เราเห็นพ้องต้องกันว่าจะสร้างสรรค์ “สายแถบและเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง ได้เห็นความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องของการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงจีน-ไทย นิคมอุตสาหกรรมระยองไทย-จีนมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราได้ทำงานร่วมกันเพื่อเอาชนะความยากลำบากของการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะที่มูลค่าการค้าทวิภาคีทะลุ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อีกครั้ง เราเป็นมิตรต่อกันจากคนรุ่นสู่รุ่น ประชาชนมีความรู้สึกใกล้ชิดทางใจ ยืนหยัดในความหวังดีและปรารถนาดีต่อกันและกัน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรากำลังก้าวไปสู่เส้นทางแห่งความสัมพันธ์จีน-ไทยที่กว้างขวางและสดใสยิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ใหม่
เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2566 เป็นปีแรกที่เราจะดำเนินการตามจิตวิญญาณของการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 อย่างรอบด้าน และเริ่มดำเนินการภายใต้สถานการณ์ใหม่ ในการบูรณาการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
ณ จุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ใหม่ จีนจะยังคงยึดมั่นในหลักการทั่วไปในการแสวงหาความก้าวหน้าท่ามกลางการรักษาเสถียรภาพ และจะดำเนินการเปิดระดับสูงอย่างแน่วแน่ ยึดมั่นในการพัฒนาอย่างสันติ เป็นอิสระ แสวงหาความก้าวหน้าสำหรับมนุษยชาติ
แสวงหาความสามัคคีอันยิ่งใหญ่สำหรับโลกและสร้างอารยธรรมมนุษย์รูปแบบใหม่ด้วยความทันสมัยแบบจีน ยึดมั่นในหลักการส่งเสริมคุณธรรมและรักษาอธิปไตยความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติอย่างเด็ดเดี่ยว
ในปีนี้เรายึดมั่นในแนวคิดประชาชนต้องมาก่อนและชีวิตสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด มีการปรับปรุงและปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามกาลเวลาและสถานการณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิต การเดินทาง การทำงาน และการเรียนของประชาชนให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
“ในขณะที่จีนฟื้นฟูแลกเปลี่ยนและไปมาหาสู่กันของประชาชนระหว่างประเทศอย่างเป็นระเบียบ ความต้องการในการเดินทางที่สะสมในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้รับการปลดปล่อยอย่างเต็มที่ และชุดนโยบายที่เพิ่งประกาศจะเกิดผล ซึ่งจะส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอย่างแข็งแกร่ง และเป็นการเพิ่มพลังเชิงบวกในการหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ”โอกาสใหม่สำหรับจีนและไทย
นายหาน จื้อเฉียง กล่าวต่อไปว่า ปี 2566 เป็นปีครบรอบปีที่ 10 ของการร่วมกันสร้างข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง” ซึ่งถือเป็นโอกาสใหม่สำหรับจีนและไทยในการร่วมกันสร้าง “สายแถบและเส้นทาง” ที่มีคุณภาพสูง เราควรจะใช้ความพยายามทำงานหนักและแสวงหาผลสำเร็จในการประสานนโยบาย การเชื่อมต่อสิ่งอำนวยความสะดวก การค้าที่ไม่มีข้อจำกัด การบูรณาการทางการเงิน และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน
ดังนั้น ประการแรก เราต้องเสริมสร้างการประสานยุทธศาสตร์การพัฒนา เร่งสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน และเติมเต็มเนื้อหาในยุคใหม่ให้กับ “จีนและไทยเป็นครอบครัวเดียวกัน” อย่างต่อเนื่อง
ประการที่สอง เราต้องใช้ประโยชน์จากศักยภาพของการเชื่อมต่อโครงข่าย และทำให้รถไฟจีน-ลาว-ไทย เป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของการส่งเสริมโลจิสติกส์ขนส่งผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าด้วยโลจิสติกส์ และเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมด้วยเศรษฐกิจการค้า
ประการที่สาม ขยายประเภทและขนาดของเศรษฐกิจการค้า เพิ่มการลงทุน ขยายธุรกิจและส่งเสริมเศรษฐกิจและการค้าจีน-ไทย ให้ยกระดับสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ประการที่สี่ สร้างจุดเด่นของอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เสริมความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ ยานพาหนะไฟฟ้า ความร่วมมือด้านพลังงานใหม่และการยกระดับอุตสาหกรรม
ประการที่ห้า เราต้องส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ส่งเสริมความคุ้นเคย ความเข้าใจซึ่งกันและกันในกลุ่มเยาวชนเพื่อเป็นหลักประกันว่ามิตรภาพจีน-ไทยจะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นต่อไป
ผลสำเร็จของความสัมพันธ์จีน-ไทยนั้นไม่อาจแยกออกจากความพยายามร่วมกันและการสนับสนุนซึ่งกันและกันของชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทย
พร้อมรับใช้ชาวจีนโพ้นทะเล
“ในปีใหม่นี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาวจีนโพ้นทะเลในประเทศไทยจะสืบสานประเพณีอันดีงามที่มีความสมานสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นมิตรระหว่างจีนและไทย สืบสานวัฒนธรรมจีนอันดีงาม เอาใจใส่และสนับสนุนกิจการการรวมแผ่นดินมาตุภูมิอย่างสันติ”
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยจะยังคงยึดมั่นในวัตถุประสงค์ของ “การทูตเพื่อประชาชน” และ “รับใช้ชาวจีนโพ้นทะเล” มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงและยกระดับการให้บริการแก่ชาวจีนโพ้นทะเลด้วยใจจริง
เทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึงและเป็นเทศกาลที่ถูกกำหนดให้เป็นวันพิเศษในประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวอย่างของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม และยังเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า
“จีนและไทยพี่น้องกัน มิใช่อื่นไกล”
ในนามของสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ข้าพเจ้าขอส่งคำอวยพรตรุษจีนไปยังท่านผู้อ่านและเพื่อนมิตร ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีความสุขตลอดปีเถาะนี้.
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ :
Posts Carousel
Latest News
เมสซี่ เผยสุดตื่นเต้น-เบ็คแฮม ชี้นี่คือฝันที่เป็นจริง
เมสซี่ เผยสุดตื่นเต้น-เบ็...
โฟแบร์ นักล่าเงินรางวัลแห่งบอลเดินสาย สู่แข้งทีมชาติ
โฟแบร์ หรือ เด็กชายอนันต์...